ปรึกษาปัญหาสุขภาพกับแพทย์ กลุ่มรพ.วิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล

การดูแลตนเองจาก โรค “ลำไส้แปรปรวน”
นอกจากการใช้ยาแล้ว การดูแลรักษาสุขภาพของตนเองก็มีความสำคัญในการรักษาโรคนี้มาก หลักการดูแลตนเอง อาจแบ่งออกเป็นดังนี้
1. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร อาหารที่ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ อาหารรสเผ็ดหรือเปรี้ยวจัด การกินผิดเวลา กินอาหารอิ่มมากเกินไป ชา กาแฟ เหล้า เบียร์ หรืออาหารมันๆ นมสด ทำให้อาการกำเริบขึ้นได้เช่นกัน ค่ะ ดังนั้นการรักษาด้วยยา ร่วมกับการหลีกเลี่ยงอาหารตามที่กล่าวจะทำให้อาการดีขึ้น มากกว่าการใช้ยาเพียงอย่างเดียวนะคะ
ผู้ป่วยหลายคนพบว่าการกินอาหารพวกผักผลไม้ที่มีใยอาหารมากๆ ทำให้อาการดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการท้องผูกจะดีขึ้นเพราะใยอาหารทำให้อุจจาระเป็นก้อนและมีน้ำมากขึ้น ช่วยทำให้การขับถ่ายง่ายขึ้นค่ะ แต่ข้อเสียของการกินใยอาหารจำนวนมาก คือ อาจทำให้เกิดอาการแน่นอืดท้อง มีลมมาก ซึ่งมักเกิดในช่วงสัปดาห์แรกของการกินยา โดยอาการดังกล่าวจะหายไปใน 2-3 สัปดาห์
ที่สำคัญผู้ป่วยควรกินน้ำมากขึ้น ทั้งในกลุ่มผู้ป่วยถ่ายอุจจาระลำบากหรือท้องผูก และกลุ่มที่มีท้องเสีย
และที่สำคัญอย่าเครียดนะคะ เพราะ ความเครียดความกังวลมีส่วนทำให้เกิดอาการของลำไส้แปรปรวน ค่ะ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีชีวิตประจำวันที่เครียด ทำงานดึก พักผ่อนน้อย วันหนึ่งนอนไม่กี่ชั่วโมง และใช้สมองในการคิดการทำงานค่อนข้างมาก ยิ่งถ้าเป็นคนที่มีบุคลิกค่อนข้างขี้โกรธ หงุดหงิดง่าย และไม่ได้ออกกำลังกายจะเกิดโรคลำไส้แปรปรวนได้ง่ายมากขึ้น


ดังนั้นหากพบอาการของโรคเกิดขึ้นกับตนเองแนะนำว่าควรจะมาพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจและรักษาให้เหมาะสมต่อไปนะคะ เมื่อรู้ต้นสายปลายเหตุของการเกิดโรคลำไส้แปรปรวน และพร้อมรับมือกับโรคร้ายที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเราแล้ว รับรองว่าโรคจะหายไปโดยเร็ว และไม่กลับมาสร้างความรำคาญให้กับชีวิตเราอีก
เมื่อ พบอาการโรคลำไส้แปรปรวนหรือมีการดังที่กล่าวมา ควร ปรึกษาแพทย์อายุรกรรมโรคระบบทางเดินอาหารและตับ